Skip to main content
สืบค้น
เรียกดูรายการ
เรียกดูคำค้น
เรียกดูหมวดหมู่
สืบค้น
สืบค้น
Collection
Class
Collection
Dataset
Image
audio document
Document
Film
Template
Base Resource
ชุดเมทาดาทาตามรอยหนังสือที่ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสีอ่าน
ชุดเมทาดาทารูปภาพ
ชุดเมทาดาทาศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี
Title
Author
หัวเรื่อง
Filters
and
or
not
Title
Author
Creator
หัวเรื่อง
Date
Description
Class
is exactly
contains
starts with
ends with
has any value
is resource with ID
and
or
not
Title
Author
Creator
หัวเรื่อง
Date
Description
Class
is exactly
contains
starts with
ends with
has any value
is resource with ID
and
or
not
Title
Author
Creator
หัวเรื่อง
Date
Description
Class
is exactly
contains
starts with
ends with
has any value
is resource with ID
and
or
not
Title
Author
Creator
หัวเรื่อง
Date
Description
Class
is exactly
contains
starts with
ends with
has any value
is resource with ID
and
or
not
Title
Author
Creator
หัวเรื่อง
Date
Description
Class
is exactly
contains
starts with
ends with
has any value
is resource with ID
Date range
From
To
สืบค้น
สืบค้น
of 62
976–1000 of 1533
Per page
Results by 10
Results by 25
Results by 50
Results by 100
Sort by
Title
Title (from z to a)
Date
Date (most recent first)
list
|
grid
1533 item
ปฏิรูปการเมืองบันทึกไว้ให้ตรง
เนื้อหาในเอกสารกล่าวอธิบายถึงบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการพัฒนาประชาธิปไตย ซึ่งมีคำสั่งแต่งตั้ง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2537 โดยมี ศาตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสีเป็นประธาน
ปฏิรูปการเรียนรู้ แก้ไขความทุกข์ยากของแผ่นดิน
ปฏิรูปการเรียนรู้เพื่อแก้ความทุกข์ยากของคนทั้งแผ่นดิน
ปฏิรูปตำรวจ: ประชาชนถนอมรักตำรวจ – ตำรวจถนอมรักประชาชน
ปฏิรูปตำรวจ: ประชาชนถนอมรักตำรวจ – ตำรวจถนอมรักประชาชน ได้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจ 4 ข้อ ได้แก่ 1.สัมพันธภาพใหม่ 2. ระบบความยุติธรรมและความปลอดภัยที่มีฐานกว้าง 3. ตำรวจควรมีเงินเดือนสูงกว่าอาชีพอื่น 4. สำนักงานคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ
ปฏิรูปประเทศไทย
ศ.นพ. ประเวศ วะสี ได้เขียนบทความเรื่อง ปฏิรูปประเทศไทย ในการรวมพลัง รวมแรงร่วมใจกันในแต่ละภาคส่วนของสังคมในการจะทำให้สำเร็จนั้น และกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกันในการแก้ไขปัหาที่ซับซ้อนในสังคม ทั้งนยี้ในบทความได้มีข้อคิดเห็นในการปฏิรูปด้านต่างๆ ในภาพรวมอีกด้วย
ปฏิรูปประเทศไทย
คำนิยมนี้มีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศไทยได้กลายเป็นระเบียบวาระแห่งชาติ ที่ทุกฝ่ายในสังคมไทยให้ความสนใจและขับเคลื่อน รัฐบาลก็ว่าเป็นรัฐบาลเพื่อการปฏิรูป และรัฐธรรมนูญ 2557 ถึงกับกำหนดให้มีสภาปฏิรูปแห่งชาติเพื่อเป็นเครื่องมือขบวนการประชาชนไม่ว่าเสื้อเหลือง เสื้อแดง หรือไม่มีสี หรือมวลมหาประชาชน ล้วนต้องการการปฏิรูปประเทศไทย สังคมไทยไม่เคยมีจุดประสงค์ร่วมกันมาก่อน มีแต่จุดประสงค์ของบุคคล ของกลุ่ม ของพรรค ของพวก ขององค์กร ของสถาบัน ซึ่งต่างกันและทอนกำลังกัน การมีจุดประสงค์ร่วมกันในการปฏิรูปประเทศไทยครั้งนี้ ต้องถือเป็นประวัติการณ์ และเป็นการก่อให้เกิดพลังของชาติในการออกจากสภาวะวิกฤต
ปฏิรูปประเทศไทย – ปฏิรูปการศึกษา
เอกสารนี้มีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับระบบการศึกษา ซึ่งเป็นระบบที่ใหญ่มาก และการศึกษาเป็นการพัฒนาคน การศึกษาจึงควรเป็นจุดคานงัดประเทศไทย ให้หลุดออกจากหลุมดำแห่งวิกฤตการณ์เรื้อรังไปสู่ความเจริญที่แท้จริงทุกๆด้าน ทั้งทางเศรษฐกิจ จิตใจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ ปัญญา ประชาธิปไตย แต่ในความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น ระบบการศึกษาไทยใช้เงินมากแต่คุณภาพต่ำ ตั้งแต่ประถมถึงอุดมศึกษา แม้แต่มหาวิทยาลัยก็ไม่เป็นหัวรถจักรทางปัญญาที่พาชาติออกจากวิกฤต
ปฏิรูปประเทศไทย : รายการเรื่องที่ควรปฏิรูป
พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2553
ปฏิรูปประเทศไทย “การบริหารประเทศให้ได้ผล”
เอกสารนี้มีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับภาวะวิกฤตสุดๆของประเทศ จนทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงขั้นรากฐาน ในการที่การปฏิรูปประเทศไทยเป็นระเบียบวาระแห่งชาติ ดังที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญ 2557 คนไทยควรจะพิจารณาปัญหาของประเทศไทยโดยรอบด้าน ซึ่งซับซ้อนมาก อย่าไปคิดว่าเกิดจากใครคนใดคนหนึ่งคนเดียว แต่เป็นปัญหาเชิงระบบ เป็นความล้มเหลวเชิงระบบ (System failure) ของประเทศไทย ระบบการบริหารประเทศล้มเหลวเกือบจะโดยสิ้นเชิง ในการปฏิรูปประเทศให้เป็นอาริยประชาธิปไตยนั้นต้องคำนึงถึงระบบบริหารประเทศที่ได้ผลด้วย การมีคณะทำงานยุทธศาสตร์ในเรื่องต่างๆ และการมีสภายุทธศาสตร์ชาติช่วยนายกรัฐมนตรีจะสร้างนักยุทธศาสตร์การพัฒนาเก่งๆให้ประเทศจำนวนมาก และกระตุ้นระบบปัญญาของประเทศให้เข้มแข็งขึ้นมาทั้งระบบ สามารถพาประเทศออกจากการติดกับแห่งความไร้สมรรถนะ ไปสู่ประเทศไทยยุคใหม่ ที่มีความเจริญอย่างแท้จริง
ปฏิรูปประเทศไทย8 เรื่อง
ศ. นพ. ประเวศ วะสี ได้เขียนบทความ เรื่อง ปฏิรูปประเทศไทย8 เรื่อง โดยอธิบายเรื่องราวเหตุการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยที่ผ่านมาหลากหลายเหตุการณ์ และมีการยกตัวอย่างเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญของต่างประเทศ อาทิเช่น ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศแอฟริกาใต้ มาประกอบอีกด้วย
ปฏิรูปประเทศไทยปฏิรูปจิตสำนึก : จิตสำนึกเปลี่ยน ทุกอย่างเปลี่ยน
พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2554
ปฏิรูประบบสุขภาพเพื่อสร้างความสุขและเพิ่มคุณค่าชีวิตของคนไทย
ปฏิรูปสังคม สังคมเข้มแข็งเป็นปัจจัยชี้ขาดอนาคตของประเทศ
เอกสารนี้มีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับสภาพที่อำนาจรัฐและอำนาจเงินเข้มแข็ง อำนาจสังคมอ่อนแอ อำนาจในบ้านเมืองไม่ได้ดุล การใช้ทรัพยากรของชาติก็ไม่เป็นธรรม ความไม่เป็นธรรมของการใช้ทรัพยากรเป็นต้นตอของปัญหาทั้งปวง และแก้ไขไม่ได้ตราบใดที่สังคมยังอ่อนแอ ฉะนั้นระเบียบวาระแห่งชาติคือการเสริมสร้างสังคมเข้มแข็ง เพื่อให้เกิดความสมดุลของโครงสร้างอำนาจในบ้านเมือง
ปฏิรูปโครงสร้าง 3 อย่าง
ศ.นพ. ประเวศ วะสี ได้เขียนบทความ ชื่อเรื่อง ปฏิรูปโครงสร้าง 3 อย่าง บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อสนับสนุนรัฐบาลและกลุ่มต่างๆในการปฏิรูปประเทศไทย มีการเสนอแนวคิดในการปฏิรูปประเทศไทย ไว้หลากหลายแง่มุม ที่น่าสนใจ
ปฏิรูปโครงสร้างทางปัญญา
ปฏิรูปไม่สำเร็จ บ้านเมืองรุนแรงกว่าเดิม
เอกสารนี้มีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศไทย เป็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ประเทศไทยหลุดออกจากสภาวะวิกฤตไปสู่ความเจริญที่แท้จริง จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญสูงสุด แต่ก็ยากสุดๆ ถ้าปฏิรูปไม่สำเร็จบ้านเมืองคงจะเกิดความรุนแรงกว่าเดิม เพราะปัจจัยที่ก่อให้เกิดความรุนแรงในปี 2553 และ 2556-2557 ยังอยู่ครบทุกอย่าง จึงควรที่ทุกภาคส่วนในสังคมไทยจะร่วมกันในกระบวนการปฏิรูปให้สำเร็จ
ปฐากถาพิเศษ “ปฏิรูปสังคม ให้ชุมชนเข้มแข็ง”โดยศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวส วะสี ในงานสัมมนา ”สานพลัง ปฏิรูป ให้ชุมชนเข้มแข็ง”
สังคมแนวดิ่งต้องเปลี่ยนเป็นทางราบ ต้องรวมตัวร่วมคิดร่วมทำใน ๓ ส่วน ในท้องถิ่น ในองค์กร ในทุกเรื่อง ปฐากถาพิเศษ “ปฏิรูปสังคม ให้ชุมชนเข้มแข็ง”โดยศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวส วะสี ในงานสัมมนา ”สานพลัง ปฏิรูป ให้ชุมชนเข้มแข็ง”
ประกิต วาทีสาธกกิจ
อาจารย์ประเวศ วะสี สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว และสวมเสื้อแขนยาวสีดำ
ประชาคมนิยม : ทางรอดใหม่ของโลก
เนื้อหาในเอกสารกล่าวถึงปาฐกถาพิเศษ โดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี ดำเนินรายการโดย นายแพทย์พลเดช ปิ่นประทีป จัดโดยสถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับคณะกรรมการ 25 ปี 14 ตุลาคม เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2541 ณ ห้องประชุมชั้น 4 ตึกอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ประชาชนพึงคาดหวังอะไรจากกระบวนการยุติธรรม
ประชาธิปไตย 2535
ประชาธิปไตย DIY : ประชาธิปไตยเริ่มง่ายๆทำได้ด้วยตัวเรา
หนังสือประชาธิปไตย DIY เล่มนี้ ทำให้เกิดความบันดาลใจที่จะร่วมกันถักทอเครือข่ายพลังพลเมืองเพื่อประชาธิปไตยและการพัฒนาอย่างบูรณาการ ซึ่งจะก่อให้เกิดจิตสำนึกใหม่และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคม จากสัมพันธภาพเชิงอำนาจหรือโครงสร้างทางดิ่ง เป็นสังคมเครือข่ายคล้ายสมอง ที่เรียนรู้จากกัน ขยายตัวและเพิ่มคุณภาพขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นสังคมประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ทั้ง 4 ด้าน คือ 1) ประชาธิปไตยทางการเมือง 2) ประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ 3) ประชาธิปไตยทางจิตใจ (Spiritual Democracy) 4) ประชาธิปไตยทางสังคม เป็นอาริยพัฒนาอย่างแท้จริง
ประชาธิปไตยชุมชน : รากฐานของการเมืองสมานฉันท์ และการเมืองคุณธรรม
ประชาธิปไตยชุมชน รากฐานของการเมืองสมานฉันท์และการเมืองคุณธรรม
หนังสือเล่มนี้ กล่าวถึงประชาธิปไตยชุมชน รากฐานของการเมืองสมานฉันท์และการเมืองคุณธรรม โดยมีเนื้อหาดังนี้ 1) มายาคติพาวิกฤต 2) ความจริง 4 ประการ 3) พระเจดีต้องสร้างจากฐาน 4) ประชาธิปไตยชุมชน 5) ประชาธิปไตยชุมชน แก้ความยากจนอย่างเด็ดขาดและถาวร 6) การสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่: รากฐานของความร่มเย็นเป็นสุข 7) สิทธิชุมชนคือประชาธิปไตยชุมชน 8) ระบบความยุติธรรมชุมชน 9) ประชาธิปไตยชุมชน ฐานของการเมืองสมานฉันท์ 10) กุญแจของประเทศไทย: สร้างฐานล่างให้แข็งแรงและเชื่อมข้างบนกับข้างล่าง 11) สภาผู้นำชุมชน 12) พรบ. ประชาธิปไตยชุมชน
ประชาธิปไตยท้องถิ่น
เอกสารนี้ เป็นคำนำที่ผู้เขียนเขียนให้กับคู่มือเล่มเล็ก ๆ เรื่อง "ประชาธิปไตยท้องถิ่น" ซึ่งเรียบเรียงมาจากคำบรรยายของ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ในการประชุมเครือข่ายนโยบายสาธารณะ ที่มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติจัดขึ้น โดยเป็นนักรัฐศาสตร์ที่ให้ความสนใจเรื่องประชาธิปไตยท้องถิ่นมายาวนาน และชี้ให้เห็นว่าประชาธิปไตยท้องถิ่นต่างจากประชาธิปไตยระดับชาติอย่างสำคัญที่ประชาธิปไตยท้องถิ่นเป็นการที่ประชาชนปกครองตนเอง แต่ประชาธิปไตยระดับชาติเป็นการเลือกตัวแทนไปปกครอง ประชาธิปไตยท้องถิ่นยังมีฐานอยู่ในจิตสำนึกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของท้องถิ่นที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษาของท้องถิ่นให้เข้มแข็ง